ก่อนหน้านี้ Coldplay ได้หยุดทัวร์ไปเมื่อช่วงปี 2019 โดยให้เหตุผลว่าพวกเค้าตั้งใจจะหาวิธีการทัวร์คอนเสิร์ตที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และเมื่อปี 2021 Coldplay ก็ได้กลับมาทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้ง โดยความพิเศษของการทัวร์คอนเสิร์ต ‘Music Of The Spheres’ ในครั้งนี้จะเป็นการทัวร์คอนเสิร์ตที่ Environmental friendly ขึ้น และ จะเป็นการทัวร์ที่ลด Carbon footprint ลง 50% เมื่อเทียบกับทัวร์ในครั้งก่อนๆ
ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินเรื่องการลด Carbon footprint ในโลกของธุรกิจมาบ้างแล้ว แต่ในวงการของดนตรีและการทัวร์คอนเสิร์ตยังเป็นอะไรที่ใหม่มากๆ ซึ่ง Coldplay ก็เป็นวงดนตรีวงแรกที่ concern ถึงเรื่อง Carbon footprint ที่เกิดขึ้นจากการทัวร์คอนเสิร์ตของพวกเขา
Carbon footprint กับการทัวร์ Concert
ลองนึกภาพว่าการจัดคอนเสิร์ตแบบ world tour ที่วงดนตรีต้องเดินทางไปทั่วโลกจะสร้าง Carbon footprint ขนาดไหน ยกตัวอย่างแค่การเดินทาง การที่วงจะเดินทางจากลอนดอนมาที่ประเทศไทย การนั่งเครื่องบินจะปล่อยคาร์บอนอยู่ที่เกือบๆ 4 ตันต่อรอบ รวมๆแล้วแค่การบินเพื่อมาทัวร์ที่กรุงเทพ 1 ครั้งนี่ปล่อยคาร์บอนพอๆกับที่เราใช้ชีวิตทั้งปีเลยด้วยซ้ำ
ซึ่งอันนี้เราพูดถึงแค่วิธีการเดินทางอย่างเดียว ยังไม่รวมถึงการเตรียมการในการจัดคอนเสิร์ตนะ ทั้งการสร้างเวที การเตรียมงานระบบแสงสีเสียง หรือการเตรียมความพร้อมในคอนเสิร์ตอีก ทั้งน้ำ อาหาร ของขายต่างๆ ก็มีการปล่อย Carbon footprint ในทุกๆกิจกรรมของการสั่งคอนเสิร์ตเช่นกัน
FUN FACT: มีวิจัยมาว่าคนเราสามารถสร้าง Carbon footprint ในคอนเสิร์ตได้ถึง 0.5 ตันต่อคนเลยทีเดียว
Coldplay’s strategy ในการลด Carbon footprint
เมื่อปี 2021 ทาง Coldplay ก็ได้ประกาศไว้ว่า จะลด carbon footprint ในการเวิล์ดทัวร์ ‘Music of the Spheres’ ให้ได้มากที่สุด ซึ่งทางวงเองก็ไมได้แค่พูด แต่ลงมือทำจริง ทั้งปรึกษากับ environmental expert จนได้แนวทางในการปฏิบัติในการทัวร์คอนเสิร์ตที่สร้าง Carbon footprint น้อยที่สุด โดยมี principle หลักๆ คือ
REDUCE – ลดการปล่อย CO2 ลง 50% โดยเทียบกับ World tour ของวงในปีก่อนหน้านี้
REINVENT – ใช้เทคโนโลยี หรือ ทางเลือกทดแทนที่กรีนขึ้นในการทัวร์
RESTORE – Funding ในโปรเจ็กที่เกี่ยวกับการสร้างธรรมชาติหรือเทคโนโลยีที่ช่วยลดคาร์บอนให้ได้มากกว่าคาร์บอนที่การทัวร์สร้าง
Coldplay ทำอะไรเพื่อลด Carbon footprint บ้าง?
นอกจากการวาง strategy แล้ว ก็มี action ที่ทางวงทำเพื่อลดการสร้าง Carbon footprint ในการทัวร์คอนเสิร์ตเช่นกัน
Partner กับ DHL ในการขนส่งอุปกรณ์ทัวร์
ทาง Coldplay เองก็ได้มีการพาร์ทเนอร์กับ DHL เพื่อลด CO2 จากการขนส่งอุปกรณ์แทนที่จะต้องขนอุปกรณ์โดยเหมาเครื่องบินในทุกๆครั้ง และในขณะเดียวกัน DHL ก็ได้สนับสนุนแนวความคิดนี้ด้วยการเลือกใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมันอีกด้วย
ออกแบบ Stage show แบบที่ช่วยลด Carbon emission
เริ่มตั้งแต่การออกแบบโครงสร้างของเวที โดยเลือกใช้โครงสร้างให้มีน้ำหนักเบา ทำให้ไม่เปลืองพลังงานที่ต้องใช้ในการขนส่ง และใช้วัสดุที่จะสามารถ Reuse ได้ในหลายๆคอนเสิร์ตอย่างเหล็กก็ยังต้องเป็นโครงจากเหล็ก recycle เพื่อลด Carbon ที่จะต้องหลอมเหล็กใหม่ๆออกมา รวมไปถึงเรื่องอุปกรณ์ต่างๆที่จะประกอบในคอนเสิร์ต อย่างไฟก็ต้องเป็นไฟที่ลดการใช้พลังงาน หรือแม้แต่ special effect เช่น Confetti หรือเศษกระดาษที่เรามักจะเห็นในคอนเสิร์ตบ่อยๆ ก็เป็นแบบที่สามารถย่อยสลายได้ (Biodegradable)
ลดการสร้าง Carbon footprint ในการเดินทางมาเล่นคอนเสิร์ตตัวเอง
ทางวงมีการวางแผนทัวร์อย่างละเอียดเพื่อให้เส้นทางการเดินทางสร้าง Carbon footprint น้อยที่สุด แน่นอนว่าคงหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยเครื่องบินไม่ได้ (เพราะต้องเดินทางข้ามประเทศอะเนอะ) ทางวงจะเลือกบินกับสายการบินพาณิชย์ ไม่ได้เดินทางโดยการเหมาลำทุกครั้งไป โดยทุกครั้งที่บิน ทางวงก็จะจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อให้สายการบินใช้น้ำมันทดแทนในการบินด้วย แต่จริงๆถ้าไม่ได้ต้องเดินทางข้ามประเทศ ทางวงก็จะเลือกเดินทางโดยใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือขนส่งสาธารณะในการเดินทางไปทัวร์ด้วย
FUN FACT: มีคนเคยเจอพี่คริส (นักร้องนำ Coldplay) เดินทางด้วยรถไฟเพื่อไปเล่นคอนเสิร์ตที่ Cardiff stadium ด้วยนะ
นอกจาก Coldplay จะลด Carbon footprint แล้ว ก็ให้แฟนๆเป็นส่วนหนึ่งในการลด Carbon footprint ในการดูคอนเสิร์ตไปด้วยกัน
ถ้าดูภาพรวมตอนนี้ หลังบ้านของวงพร้อมที่จะลด Carbon footprint แล้ว แต่ชาเลนจ์ใหญ่อีกอันนึงคือ วงจะทำยังไงให้แฟนๆที่มาดูคอนเสิร์ตเป็นส่วนหนึ่งในการลด Carbon footprint ด้วย?
ทางวงเองก็ได้สร้างประสบการณ์ที่แฟนๆจะได้เจอในคอนเสิร์ตทั้งที่ยังคงความสนุกของคอนเสิร์ตและยังช่วยลดการสร้าง Carbon footprint ด้วย
Coldplay Application ให้แฟนๆได้แพลนวิถีการใช้ชีวิตที่ลดการสร้าง Carbon footprint
มีแอปพลิเคชั่นที่จะบอกข้อมูลเกี่ยวกับ Carbon footprint พร้อมแนวทางในการช่วยลด เช่น ให้เราบอกวิธีการเดินทางมาคอนเสิร์ต ใครที่เลือกวิธีเดินทางที่ Carbon น้อยที่สุด ก็จะรับโค้ดส่วนลดในการซื้อของที่ระลึกด้วย
Kinetic energy floor ฟลอร์เต้นที่ช่วยสร้างพลังงานหมุนเวียนไว้ใช้ในคอนเสิร์ต
ฟลอร์เต้นสำหรับแฟนๆขาแดนซ์ ที่พอวงเล่นเพลงมันส์ๆแล้วเราอยากจะเต้น บนพื้นที่นี้ ก็จะเปลี่ยนแรงสั่นของพื้นไปสร้างพลังงานที่ใช้ในคอนเสิร์ตอีกด้วย แฟนๆไม่ได้รู้สึกว่าฉันจะต้องมาสร้างพลังงานนะ แต่แค่เราสนุกไปกับเพลงก็สร้างพลังงานได้แล้ว
Reusable wristband วิสแบนด์ที่ช่วยสร้างสีสันแต่ไม่สร้าง waste ในคอนเสิร์ต
วิสแบนด์ที่แจกให้แฟนๆก่อนเข้าคอน วิสแบนด์จะเปลี่ยนสีตามเพลงในคอนเสิร์ตตามที่เซ็ตไว้ ซึ่งทางวงตั้งใจจะให้วิสแบนด์นี้สามารถ reuse ไปได้ทุกๆคอนเสิร์ตทั้วโลก ซึ่งเราก็เข้าใจแฟนๆหลายๆคนก็คงมีความคิดอยากเก็บกลับไปเป็นที่ระลึกแหละ ซึ่งมันก็แอบสวนทางกับความตั้งใจของวง ทางวงก็เลยมีวิธีแก้ปัญหาตรงนี้ไว้ด้วย คือการโชว์ stat เปอร์เซ็นต์ในการคืนวิสแบนด์ของแต่ละเมืองที่ไปทัวร์ให้เห็นไปเลย ว่าชาวเมืองนั้นๆเค้าคืนกันกี่เปอร์เซ็นต์ แถมมีเปรียบเทียบกับเมืองที่ไปทัวร์ก่อนหน้าด้วย ซึ่งการแสดงข้อมูลแบบนี้ก็ช่วยกระตุ้นให้ชาวเมืองคืนวิสแบนด์ได้อย่างดีเลย เรียกว่านี่มันแข่งกันที่ความภูมิใจของชาวเมืองชัดๆ 😅
นอกเหนือจากที่ทาง BETTER เล่ามา จริงๆทางวง Coldplay ก็ยังมีนโยบายและ action อื่นๆที่ช่วยลด Carbon footprint ด้วย ถ้าใครสนใจสามารถเข้าไปอ่านนโยบายอื่นๆได้ที่เว็บไซต์ของวงได้เลย >>
https://sustainability.coldplay.com/ WHAT’S BETTER
1. การวางแผนและกระบวนการทั้งหมดที่ช่วยทำให้ ecosystem ของการทัวร์คอนเสิร์ต sustain ขึ้น
2. คิดถึงประสบการณ์ที่ช่วยให้แฟนคลับรักษ์โลกโดยไม่ยัดเยียดหรือรู้สึกลำบากที่จะทำตาม
3. ใช้แรงจูงใจในการสร้างชาเลนจ์รักษ์โลกแข่งกันของแต่ละประเทศ