Fjällräven (อ่านว่า ฟยัล-รา-เว่น) แบรนด์สัญชาติสวีเดน ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 มีโลโก้เป็นเจ้าสุนัขจิ้งจอกอาร์กติก ความพิเศษของ Fjällräven ไม่ได้มีเพียงผลิตภัณฑ์เป้ยอดฮิตอย่าง Kånken (อ่านว่า คอง-เก้น) แต่เบื้องหลังของแบรนด์ถูกคิดมาให้สะท้อนความตั้งใจที่ว่า “จะทำชีวิต Outdoor ให้ง่ายและสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน” จนสามารถครองใจคนที่ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านได้ทั่วถึง ไม่ว่าคนที่ชอบออกไปใช้ชีวิตข้างนอกอย่างสมบุกสมบัน หรือแค่ชื่นชอบ lifestyle ชิว ๆ ผลิตภัณฑ์ Fjällräven ก็สามารถตอบโจทย์นั้นได้เป็นอย่างดี
FUN FACT : หลายคนเข้าใจผิดว่าแบรนด์ Fjällräven มีชื่อแบรนด์ว่า Fjällräven Kånken หรือเรียกกันว่า Kånken (คองเก้น) เฉย ๆ ไปเลย นั่นก็เป็นเพราะว่ากระเป๋าเป้ทรงสี่เหลี่ยมของแบรนด์นั้นโด่งดังมากเสียจนคนเข้าใจว่าเป็นชื่อแบรนด์ไปแล้ว
กระเป๋าเป้ Kånken เอาแนวคิดกระเป๋านักปีนเขา มาแก้ปัญหาให้กระเป๋านักเรียน
เป้ Kånken คือผลิตภัณฑ์ที่โด่งดังที่สุดของ Fjällräven ได้รับการยอมรับในวงกว้าง เป็นหนึ่ง must have item ที่ใคร ๆ ก็อยากมีติดไว้ ด้วยดีไซน์ที่ทั้งเท่และน่ารัก มีน้ำหนักเบา มีหลากหลายสีสัน โดยจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ยอดฮิตนี้อยู่ในปี ค.ศ. 1978 เกิดจากการมองเห็นปัญหาเกี่ยวกับการใช้กระเป๋าสะพายไหล่แบบเดิมๆ ไปโรงเรียนของนักเรียนสวีเดน ที่ทำให้เด็กๆ เกิดอาการปวดไหล่และหลัง ซึ่งในสมัยก่อนกระเป๋าเป้ไม่ได้เป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไปหรือนักเรียนมากนัก ส่วนใหญ่จะถูกใช้โดยพวกนักปีนเขาเสียมากกว่า
Åke Nordin ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Fjällräven จึงมีแนวคิดที่อยากจะพัฒนากระเป๋าเป้ให้นักเรียนสวีเดนหรือบุคคลทั่วไปสามารถสะพายออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านได้สะดวกสบายขึ้น Kånken จึง เป็นกระเป๋าเป้รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ออกแบบให้มีรูปทรงคล้ายกับกระเป๋านักเรียนแบบเดิมของเด็ก ๆ มีขนาดพอดีกับแฟ้ม A4 2 อัน ให้สามารถใส่ของไปโรงเรียนได้ อย่างไรก็ตามกระเป๋า Kånken ไม่เหมือนคนอื่น เพราะมันไม่ได้ออกแบบมาให้ใส่ของได้เยอะที่สุด แต่ออกแบบให้สามารถบรรจุของในระดับที่พอเหมาะเท่านั้นเพื่อให้เด็ก ๆ นำแต่ของที่จำเป็นไปโรงเรียน ไม่ต้องแบกรับน้ำหนักมากจนเกินไป อีกทั้งวัสดุผ้ากรอง Vinylon ที่มีคุณสมบัติความทนทานสูง ทำให้วิ่งเล่นหรือเดินทางได้อย่างอิสระ และยังสามารถลดปัญหาการปวดเมื่อยจากการใช้กระเป๋าแบบเดิมของเด็ก ๆ
อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ทำให้กระเป๋า Kånken ตอบโจทย์ได้ตรงกับชีวิตของเด็กสวีเดนคือ “แผ่นโฟม” หากใครมีกระเป๋าเป้ใบนี้ให้ลองเปิดดูจะเจอแผ่นโฟมรองหลังอยู่ด้านใน โฟมแผ่นนี้เกิดจากความเข้าใจวิถีชีวิตของเด็กสวีเดน ว่าพวกเขาไม่ได้มีแต่การเรียนในห้องเรียน แต่สวีเดนให้ความสำคัญกับการศึกษานอกห้องเรียนมาก มีการส่งเสริมให้เด็ก ๆ ออกไปใช้ชีวิต เล่นสนุกด้านนอกโรงเรียน แผ่นโฟมนี้จะช่วยกระจายสมดุลน้ำหนักของในกระเป๋า สามารถสะพายกระเป๋าทำกิจกรรมได้โดยไม่ทำให้กิจกรรมนั้นติดขัด โดยแผ่นโฟมจะปรับเปลี่ยนรูปร่างให้รับกับหลังของผู้ใช้งาน ผู้ออกแบบได้ใส่สิ่งนี้มาเพื่อให้เด็ก ๆ สามารถถอดแผ่นโฟมออกจากกระเป๋ามาใช้เป็นที่รองนั่งเวลาออกไปนั่งในป่า หรือตามที่สาธารณะที่อาจจะเปียก สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นได้ว่าเรื่องดีไซน์สวยงามก็ผ่าน เรื่องฟังก์ชั่นก็ผ่าน จึงไม่แปลกใจที่นอกจากเด็กนักเรียนแล้วใคร ๆ ก็อยากหาซื้อมาใช้จนกลายเป็นสินค้าหนึ่งที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ สะท้อนความตั้งใจที่ Fjällräven อยากจะทำให้ชีวิต Outdoor ของคนง่ายและสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านอย่างแท้จริง
เพราะ Fjällräven อยากให้ทุกคนเห็นว่าธรรมชาติคือบ้านของพวกเขา
คุณอาจจะเริ่มเห็นภาพแบรนด์ Fjällräven ชัดมากขึ้น ผ่านเรื่องเล่าของกระเป๋าเป้สุดฮิตไปแล้ว BETTER จึงอยากชวนมารู้ถึงตัวตนของ Fjällräven ให้เห็นถึงความตั้งใจของแบรนด์ ที่ว่าด้วยการสร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากออกไปใช้ชีวิตข้างนอก โดยการทำให้คนเข้าถึงธรรมชาติได้ง่ายขึ้น ฟังดูอาจจะคล้ายกับแบรนด์สินค้า Outdoor อื่น ๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ Fjällräven ต้องการจะสื่อคือ การให้คนมองว่า ธรรมชาติคือบ้าน บ้านที่จะต้องไม่ต้องลำบากเวลาใช้ชีวิต และแบรนด์ก็เชื่อว่า เมื่อคนเห็นว่าที่ไหนเป็นบ้านแล้วเขาจะอยากดูแลรักษา ไม่ทำลาย รักในที่แห่งนั้นมากยิ่งขึ้น
สินค้ามาจากการแก้ปัญหาที่เจอในการออกไปใช้ชีวิต outdoor จริง
สินค้าของ Fjällräven มาจากการเจอปัญหาในการใช้ชีวิต Outdoor ของ Åke Nordin ผู้ก่อตั้ง เช่น สินค้าเสื้อดาวน์ (Down Jacket) ของ Fjällräven เป็นเสื้อกันหนาวที่ได้ไอเดียมาจากการที่ Åke Nordin ออกไปผจญภัยในสภาพอากาศที่หนาวสุดขั้วของประเทศสวีเดน เขาจึงเกิดแนวคิดใหม่โดยทำการนำเสื้อดาวน์ 2 ตัวในเย็บซ้อนเข้าด้วยกัน ทำให้กลายเป็นสินค้าเสื้อกันหนาวที่ได้รับความนิยมอย่างมากของแบรนด์เพราะทำให้ร่างกายรักษาความอบอุ่นได้ดียิ่งขึ้น
หรือสินค้าอื่น ๆ ก็ล้วนแต่มีรายละเอียดที่ถูกเข้าใจการใช้ชีวิตใน Outdoor อย่างแท้จริง เช่น กางเกงเดินป่าของ Fjällräven ที่จะใช้วัสดุบริเวณเข่าที่แข็งแรงเพื่อรองรับการคุกเข่าในพื้นที่ป่าหรือเขา รูปทรงมีความโค้งที่พอเหมาะพอดีทำให้เดินป่าได้อย่างสะดวกสบาย ลุกนั่งหรืองอขาได้อย่างอิสระ อีกทั้งรายละเอียดกระเป๋ากางเกงทั้ง 2 ข้างก็ไม่เหมือนกัน เพื่อรองรับการใส่อุปกรณ์เดินป่าที่หลากหลายแตกต่างกัน หรือ เสื้อแจ็กเก็ตของ Fjällräven ที่บริเวณสะโพกจะต้องยาวและโค้งรับกับสรีระเสมอ เพื่อสะพายเป้ได้อย่างไม่ติดขัด จะเห็นได้ว่าทุกจุดเล็ก ๆ ถูกออกแบบมาอย่างเข้าใจการใช้งานจริงและความเข้าใจนี้ล้วนมาจากประสบการณ์ชีวิต Outdoor ของเขานั่นเอง
“จะใส่ไปปีนเขาที่ไหน?” คำถามปกติที่พนักงานถามเพื่อแนะนำสินค้าให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมจริงๆ
เมื่อผลิตสินค้ามาแล้ว ไม่ว่าแนวคิดจะดีแค่ไหนแต่ก็ขาดการทดลองใช้จริงไปไม่ได้ เพราะมันจะทำให้เห็นอย่างถ่องแท้ว่าสินค้าใช้ได้ดีจริงหรือไม่ ซึ่งความพิเศษของการทดลองสินค้าแบบ Fjällräven คือการทดลองใช้สินค้านั้นในหลากหลายทวีป เพราะแบรนด์เชื่อว่าการปีนเขาหรือการเดินป่าในแต่ละภูมิประเทศล้วนต่างกัน ทั้งสภาพแวดล้อมและข้อจำกัดที่ผู้ใช้งานต้องเจอก็ล้วนแตกต่างกัน ทำให้รายละเอียดสินค้าของ Fjällräven ละเอียดไปถึงว่าการออกแบบนี้เหมาะกับไปใช้งานในการปีนเขาหรือผจญภัยที่ไหน เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยหากเมื่อเดินเข้าไปซื้ออุปกรณ์ Outdoor ในร้าน Fjällräven แล้ว พนักงานมักจะถามก่อนเสมอว่า “คุณจะไปปีนเขาที่ไหน?” เพื่อช่วยเลือกสิ่งที่เหมาะกับที่ที่คุณไปที่สุด
สร้างความตระหนักด้านความยั่งยืนแก่ผู้ใช้งาน ผ่านการออกแบบ การผลิต และบริการ
Fjällräven ตระหนักว่าการที่คนออกไปใช้ชีวิต Outdoor ได้ออกไปผจญภัยในแต่ละครั้ง ล้วนมีเรื่องราวที่พวกเขาได้ประสบพบเจอและเก็บเป็นความทรงจำที่ดีเสมอ เสื้อผ้าชุดต่าง ๆ ของแบรนด์จึงจะทำหน้าที่เป็นมากกว่าเสื้อผ้า แต่คือ สิ่งเตือนความทรงจำ ว่าผู้ใช้งานเคยสวมใส่สิ่งนี้และผ่านการผจญภัยอะไรมา ทำให้หลักการสำคัญเรื่องดีไซน์ความสวยงามของสินค้า Fjällräven นั้นจะต้องเหนือกาลเวลา ผู้ออกแบบมองการไกลไปข้างหน้าเสมอว่า trend ไหนจะสามารถอยู่ได้อย่างยาวนานโดยไม่ตกยุคไปเสียก่อน และสำคัญที่สุดของสิ่งเตือนความทรงจำนี้คือ ต้องทนทาน คำง่าย ๆ ที่ Fjällräven ใส่ใจเอามาก ๆ เพราะแบรนด์เชื่อว่าการทำให้สินค้าอยู่กับผู้ใช้ไปนาน ๆ นั่นคือความผูกพันธ์ที่จะทำให้คนมองว่าสินค้าเป็นมากกว่าสินค้า คนมองเห็นความสำคัญของการใช้ของอย่างคุ้มค่า และเชื่อถือในแบรนด์ Fjällräven จึงมีการออกแบบโดยคำนึงถึงอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีบริการรับซ่อมตลอดอายุการใช้งาน และคำแนะนำการดูแลอย่างละเอียดติดไปกับสินค้าทุกชิ้น เห็นได้เลยว่าแบรนด์ Fjällräven ได้มีความพยายามหลากหลายวิธีที่จะทำให้คนเรียนรู้ที่จะรักชีวิตกับธรรมชาติอย่างยั่งยืนจริง ๆ
เป็นมากกว่าแบรนด์ แต่เป็นผู้สนับสนุนให้คนออกมาสัมผัสธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากสินค้าแล้ว ทาง Fjällräven ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ได้เข้าร่วมเพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิตในธรรมชาติร่วมไปกับแบรนด์ ตัวอย่างเช่น กิจกรรม Fjällräven Polar ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนได้สัมผัสธรรมชาติ เข้าใจถึงวิถีชีวิตสแกนดิเนเวียน เป็นกิจกรรมผจญภัยพร้อมกับสุนัขลากเลื่อน และมีการสอนวิธีใช้ชีวิตในภูมิอากาศติดลบด้วย
หรือ Fjällräven Classic กิจกรรมเดินป่าที่เป็นการเชิญชวนให้คนเมืองออกมาใช้ชีวิต Outdoor ในแต่ละภูมิภาค โดยกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ Fjällräven แต่ละประเทศจะจัดขึ้นเองโดยกำหนดสถานที่ในภูมิภาคตนเอง เปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้าใกล้และทำความรู้จักธรรมชาติในประเทศของตนเองมากยิ่งขึ้น
WHAT'S BETTER
1. สินค้าที่เข้าใจบริบทของคำว่า “ชีวิต outdoor” ที่แตกต่างกันของคนแต่ละกลุ่ม ไม่ได้ให้ความหมายเฉพาะกลุ่มคนที่ไปปีนเขาหรือเดินป่า แต่เป็นการออกนอกบ้านและผจญภัยในรูปแบบของตนเองสินค้าของ Fjällräven คิดอย่างเข้าใจถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต outdoor ของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มนักปีนเขา กลุ่มนักเรียน ก็ล้วนได้ใช้สินค้าที่เข้ากับชีวิตนอกบ้านในแบบของตนเอง
2. ไม่ได้ขายแค่แนวคิดที่จับต้องไม่ได้ แต่สามารถสอนให้คนรู้จักรักษาได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติหรือสินค้า แบรนด์สร้างสินค้าให้คนรู้สึกว่าการใช้ชีวิต outdoor สนุกสนานและไม่ยากก็เพื่อจะให้คนชื่นชอบธรรมชาติ และทำให้สินค้ามีความทนทานเพื่อให้คนดูแล ผูกพันธ์กับสินค้า ทั้งหมดล้วนสร้างความตระหนักให้กับผู้ใช้งานที่มาก กว่าการซื้อสินค้าแล้วจบไป แต่ได้ปลูกฝังแนวคิดของแบรนด์ลงไปด้วย
3. มากกว่าสินค้า คือกิจกรรมที่ส่งเสริมให้คนได้ใช้ชีวิต outdoor ในรูปแบบใหม่ ๆ ผ่านมุมมองจากแบรนด์ สะท้อน passion ของแบรนด์ที่มีต่อธรรมชาติ และยังสามารถมอบสิ่งที่ล้ำค่ากว่าสินค้าให้กับผู้ใช้งาน นั่นก็คือประสบการณ์