About
Contact Us
© 2020 Contextual Co.,Ltd. All rights reserved
Back To Home
Back To Home

5 ความพิเศษของ SWATCH นาฬิกา กู้วิกฤตประเทศ

พูดถึง Swatch หลายคนคงจะนึกถึง นาฬิกาพลาสติก สีสันสดใส ที่มีลวดลายหลากหลาย แต่รู้หรือไม่ว่า Swatch คือสิ่งที่ทำให้สวิสเซอร์แลนด์ผ่านวิกฤตประเทศมาได้
เค รื่ย้อนไปยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ได้เปรียบจากการเป็นกลางทางสงคราม สามารถผลิตนาฬิกาส่งให้ทหารจนได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องแม้สงครามจะจบลง ในตอนนั้นไม่มีใครไม่รู้จักนาฬิกา “swiss-made” เหล่าแบรนด์ดังต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น omega หรือ rolex ล้วนเป็นนาฬิกา swiss-made ทั้งนั้น เหตุมาจากสวิสเซอร์แลนด์มีสุดยอดองค์ความรู้ด้านกลไกและทำนาฬิกาในมือ ประเทศเต็มไปด้วยแรงงานช่างฝีมือในการประกอบนาฬิกาที่ขึ้นชื่อว่าคือที่สุดในทุกด้าน ทั้งความแม่นยำและความประณีต
นาฬิกา swiss-made ในยุคนั้นคือความเลอค่า ผ่านมือผู้เชี่ยวชาญทุกเรือน และเป็นนาฬิกาแบบกลไก (คือ นาฬิกาที่มีฟันเฟืองด้านใน ขับเคลื่อนโดยสปริง) – จนกระทั่งช่วงปี 70-80 เมื่อแบรนด์ seiko จากประเทศญี่ปุ่นปล่อยนาฬิกา Quartz ออกมา (นาฬิกาใช้ถ่าน) ทั่วโลกก็หันไปให้ความสนใจทันทีด้วยระบบที่แม่นยำกว่านาฬิกากลไก และที่สำคัญราคาถูกกว่า swiss-made ด้วยดีไซน์ที่หรูหราไม่แพ้นาฬิกาจากสวิสเลยสักนิด ทำให้เกิด Quartz Crisis หรือวิกฤตควอทซ์ จนธุรกิจนาฬิกาสวิสเสี่ยงล้มละลาย ช่างฝีมือตกงาน และถือเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ระดับประเทศ
ในที่สุด Nicolas George Hayek (ณ ตอนนั้นเป็นผู้เข้ามาช่วย 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ของนาฬิกา swiss-made อย่าง ASUAG และ SSIH) ก็ได้มีไอเดียกู้วิกฤต ก็คือ “ผลิตนาฬิกา Quartz ที่เป็น swiss-made ทั้งหมด” คุณภาพสูงจากช่างสวิสเซอร์แลนด์แท้ แต่อยู่ในราคาที่จับต้องได้
แม้แต่ก่อนนาฬิกา swiss-made เป็นของแพง นิยมซื้อไว้ลงทุนหรือส่งต่อเป็นมรดก แนวคิดเอาตัวรอดในวิกฤตนี้ ทำให้เกิด SWATCH ขึ้นมา เป็นนาฬิกา Quartz จาก swiss-made ตัวเรือนพลาสติกและสีสันฉูดฉาด ทนทาน กันน้ำ แหกกฎภาพลักษณ์นาฬิกาที่ต้องเรียบหรูในยุคนั้น และมีชิ้นส่วนด้านในเพียงแค่ 51 ชิ้น ทำให้ผลิตได้จำนวนมาก ปรากฎว่า SWATCH สามารถช่วยชาติสวิสเซอร์แลนด์ไว้ได้สำเร็จจริง ๆ และเปิดโอกาสให้แบรนด์นาฬิกาสวิสอื่นๆ กลับมาโลดแล่นในตลาดโลกอีกครั้ง
จากจุดเริ่มต้นกับการเป็นนาฬิกาช่วยชาติถึงปัจจุบัน SWATCH ถือเป็นนาฬิกาที่ครองใจทุกคนด้วยความป๊อบไม่เหมือนใคร ภายหลังได้รับฉายาว่าเป็นนาฬิกาแห่ง pop culture เลยทีเดียว ซึ่งวันนี้ Better ขอเล่าความพิเศษของนาฬิกาสวอทช์ผ่าน 5 เรื่องราว

1. นาฬิกาที่ขอเป็นที่สอง “second watch” ของทุกคน

SWATCH แหวกทุกภาพจำว่านาฬิกาจะต้องเป็นเรือนโลหะหรูหรา และเปิดตัวเป็น second watch หรือนาฬิกาที่สอง ที่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมแพ้ใคร แต่สวอทช์ต้องการให้นาฬิกาของตัวเองที่โด่งดังด้วยสไตล์สนุกสนานสบายๆ นั้นเป็นตัวเลือกแรกของคนในชีวิตประจำวันง่ายๆ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายขึ้นมาก จากที่คนมองหานาฬิกาแบรนด์อื่นเพื่อออกงาน แต่พอเป็นสวอทช์กลับกลายเป็นของคู่ใจที่ใส่ได้ทุกวัน

2. ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร สไตล์ไหน ต้องการอะไร SWATCH ตอบโจทย์คุณได้ 

ทุกสไตล์ล้วนเป็น SWATCH
แม้คนจะนึกถึง SWATCH ในแง่ของนาฬิกาพลาสติกสีสันสดใส แต่จริงๆ แล้วสวอทช์มัดใจคนหลากหลายกลุ่มไว้ได้เพราะหลายร้อยดีไซน์ ไม่ได้มองเห็นกลุ่มลูกค้าแค่ไม่กี่กลุ่มเหมือนแบรนด์นาฬิกาอื่นทั่วไป แต่ตอบโจทย์คนแต่ละกลุ่มที่มองหานาฬิกาคู่ใจทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงที่สุด โดยไม่ทิ้งดีไซน์ของข้อต่ออันเป็นเอกลักษณ์ของ SWATCH โดยมีตัวอย่าง product ของสวอทช์ที่เกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนแต่ละกลุ่มได้อย่างลงตัว
SWATCH Flik Flak นาฬิกาที่ช่วยให้เด็กใช้ชีวิตอย่างเต็มที่
สวอทช์ทำนาฬิกาสำหรับเด็ก ๆ ที่ไม่ใช่มีหน้าที่แค่บอกเวลา แต่เข้าใจพฤติกรรมของเด็ก ทั้งเรื่องสไตล์ เรื่องการใช้ชีวิต เพราะเด็กอยู่ในวัยกำลังซน นาฬิกาสำหรับการออกไปเล่นทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ จึงทนทานต่อการกระแทกมาก อีกทั้งยังใส่ใจลึกไปถึงวัสดุ เพราะผิวของเด็กไม่เหมือนผู้ใหญ่ SWATCH Flik Flak ใช้วัสดุ BPA-free ปลอดสารเคมีไม่ระคายเคืองผิวเด็ก ๆ ใส่ได้ทั้งวัน ที่สำคัญซักเครื่องได้ด้วย! (เผื่อเด็กเผลอโยนนาฬิกาลงเครื่องก็ไม่เป็นไรแน่ๆ) นอกจากนี้ยังเพิ่มฟังก์ชั่นปักข้อความลงบนสายนาฬิกาได้ตามใจ ปักชื่อก็ได้ไม่ต้องกลัวทำหาย หรือจะปักเบอร์โทรศัพท์คุณพ่อคุณแม่ไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
SWATCH SISTEM 51 นาฬิกาสำหรับสายนวัตกรรม
ถึงแม้นาฬิกาสวอทช์จะมีภาพลักษณ์สีสันสดใส แต่จริงๆ แล้วเป็นที่รู้กันเลยว่าสวอทช์มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมกลไกนาฬิกามาก SISTEM 51 คือนาฬิกาออโตเมติกรุ่นที่สวอทช์พัฒนาขึ้นมาด้วยชิ้นส่วนกลไกลเพียง 51 ชิ้น มีกำลังลานสูงสุด 90 ชั่วโมง แถมดีไซน์ก็ยังเอาใจคนที่ชอบเรื่องนี้ด้วยด้านหลังจะโปร่งใสมองทะลุเห็นกลไก รุ่นนี้สไตล์จะเน้นไปที่ความเรียบหรูดูแพง ถูกใจกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เห็นว่านาฬิกาสายเท่สายคูล สวอทช์ก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน
SWATCH SKIN CLASSIC นาฬิกามินิมอล สายรักษ์โลก
นาฬิกามินิมอลรุ่นนี้ของสวอทช์ไม่ได้มินิมอลแค่ดีไซน์นะ แต่ฟังก์ชั่นก็ออกแบบมาตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ทั้งรักษ์โลกและชอบความสะดวกสบายในเวลาเดียวกัน SKIN ตัวเรือนบางน้ำหนักเบา ผลิตจากวัสดุชีวภาพที่ไม่ทำลายโลก เพราะเดี๋ยวนี้คนจะซื้อของสักชิ้นก็ต้องนึกถึงโลกด้วยแล้ว

3. SWATCH คือนาฬิกาที่ทำ collaboration จนปัง!

สิ่งหนึ่งที่ทำให้สวอทช์โดดเด่นจากนาฬิกาแบรนด์อื่นในตลาดคือการทำตัวเป็นผ้าใบขนาดเล็ก ให้คนมาละเลงสี บอกเล่าเรื่องราว เพราะสวอทช์นั้นรู้ว่านาฬิกาหรือแฟชั่นนั้นผูกกับวงการศิลปะแน่นอนอยู่แล้ว จึงเริ่มทำ collaboration กับศิลปินในวงการศิลปะมาตั้งแต่ปี 1985 ซึ่งครั้งแรกคือการนำผลงานจาก Kiki Picasso ศิลปินกราฟิกดีไซน์เนอร์ชาวฝรั่งเศสมารังสรรค์บนนาฬิกาสวอทช์หลากหลายลาย เป็นการเปิดตลาดให้กลุ่มเป้าหมายผู้รักศิลปะ เลือกที่จะสะสมสวอทช์เหมือนเป็นงานศิลปะ
หลังจากนั้นมีการขยายความร่วมมือไปสู่ด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ งานเทศกาล คาแรคเตอร์ต่าง ๆ ฯลฯ เป็นเหตุผลที่ว่าทำไม SWATCH ถึงมีแบบนาฬิกาเยอะและหลากหลายครอบคลุมได้ทุกสไตล์ งานศิลปะที่สวอทช์มีในครอบครองจากศิลปินทุกแขนงมากถึงขั้นสามารถทำบริการ SWATCH x You ที่ให้คนเลือกผลงานที่ต้องการมาใส่บนนาฬิกาได้เอง

4. แบรนด์นาฬิกาหนึ่งในผู้สร้าง Pop Culture กับการสนับสนุนศิลปะ ดนตรี และกีฬา

จากการคอลแลปกับศิลปินทั่วมุมโลกก็จะเห็นได้ว่า สวอทช์ให้ความสำคัญกับวงการศิลปะมากจริง ๆ ซึ่งความบ้าศิลปะของแบรนด์ก็ถึงขั้นที่ว่ามีการจัดเทศกาล Art อย่างสม่ำเสมอ เช่น การเป็นพาร์ทเนอร์กับ Biennale Arte ในทุกปีเพื่อจัดนิทรรศการ และออกคอลเลคชั่นพิเศษจากศิลปินในแต่ละปี หรือยิ่งกว่านั้นในปี 2011 ได้เปิดโรงแรมฟรีเพื่อศิลปิน Swatch Art Peace hotel ณ เซี่ยงไฮ้ได้ถูกสวอทช์ทำให้เป็นที่พักที่เปิดรับศิลปินจากทั่วมุมโลกเข้ามาพัก ใช้พื้นที่ทำงานและพบปะกัน โดยที่แลกกับการผลิตผลงานศิลปะให้แบรนด์ ทำให้สวอทช์ได้ผลงานสุด exclusive จากมือ artist มากมายที่แวะเวียนเข้ามาที่โรงแรมแห่งนี้ อีกทั้งยังมีการจัดแสดงงานศิลปะอีกด้วย
ความป๊อบของ SWATCH ไม่ได้หยุดอยู่แค่งานศิลป์แต่ไปจนถึงการสนับสนุนเทศกาลภาพยนตร์อย่าง Locarno Flim Festival ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่เข้าไปทั้งให้การสนับสนุนผู้ผลิต และออกคอลเลคชั่นเฉลิมฉลองให้กับเทศกาล นอกจากนี้ยังเข้าไปให้การสนับสนุนเทศกาลเพลงทั้งในสวิสและเยอรมัน สร้างพื้นที่ให้คอดนตรีเข้ามาทำความรู้จักกับแบรนด์ เรียกได้ว่าสวอทช์คือแบรนด์นาฬิกาแห่งป๊อบคัลเจอร์จริง ๆ
ด้านกีฬาสวอทช์ก็ไม่มองข้ามเช่นกัน แต่ความพิเศษคือสวอทช์เลือกที่จะสนับสนุนกีฬาประเภทที่คนเฉพาะกลุ่มเข้าถึงและที่สำคัญคือความโลดโผน ตอกย้ำความทนทานกว่าใครของนาฬิกา SWATCH ที่สร้างชื่อเสียงแบรนด์มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นกีฬาปั่นจักรยานเสือภูเขา วอลเล่ย์บอลชายหาด เซิร์ฟบอร์ด สโนวบอร์ด จะเห็นได้ว่ามีแต่กีฬาที่ต้องการนาฬิกาคู่ใจที่พร้อมสู้กับสภาพแวดล้อมทุกแบบ โดย SWATCH ให้การสนับสนุนทั้งนักกีฬา และมีคอลเลคชั่น SWATCH & SPORTS ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกีฬาแต่ละประเภท มัดใจคนที่มี lifestyle สุดเหวี่ยงไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาหรือสายลุย

5. เปลี่ยนถ่านสวิสแท้ฟรีตลอดชีพ ดึงลูกค้ากลับมาที่ร้านเรื่อย ๆ

แน่นอนว่าบริการหลังการขายเป็นสิ่งสำคัญ สวอทช์มีบริการเปลี่ยนถ่านจากสวิสเซอแลนด์ฟรีตลอดชีวิตให้กับลูกค้า เพียงแค่เดินเข้าไปที่หน้าร้าน อาจจะฟังดูธรรมดา แต่ความน่าสนใจคือเบื้องหลังแนวคิดบริการที่ว่าต้องการจะให้ลูกค้ากลับเข้ามาที่หน้าร้านเรื่อย ๆ ได้มาเจอกับนาฬิการ้อยคอลเลคชั่นที่ display เรียงรายกันและอัพเดทของใหม่ทุกครั้งท่ีมา จากที่มาเปลี่ยนแค่ถ่าน ก็ทำให้ลูกค้าหลายคนได้นาฬิกาใหม่ติดมือกลับไปด้วยนั่นเอง
WHAT’S BETTER

1. การออกแบบที่เกิดจากการเอาตัวรอดในวิกฤต ทำให้มองเห็นหนทางใหม่จากการแหกกฎเดิม ๆ อย่างเช่นที่ สวอทช์ ที่สร้างนาฬิกาพลาสติกหลากสีสุดป๊อบ ครองใจคนได้ด้วยความไม่เหมือนใคร
2. การวาง position แบรนด์และสินค้าที่ขอเป็นที่สอง แต่หมายถึงเป็นนาฬิกาวันสบาย ๆ ของทุกคน ช่วยให้ สวอทช์ มีจุดยืนที่ชัดเจนในใจลูกค้า
3. การมองเห็นลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทำให้แม้แต่นาฬิกาก็สามารถมีหลากหลายฟังก์ชั่น การออกแบบที่มาจาก insight ของคนแต่ละแบบ ขยายฐานลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
4. การ collaboration อย่างชาญฉลาด ที่ไม่ใช่แค่เอาของตัวเองไปร่วมมือกับคนอื่นแบบผิวเผิน แต่เลือกสนับสนุนศิลปินหรือผู้คนในวงการต่าง ๆ ที่สามารถให้ภาพลักษณ์ที่เหมาะสมกับแบรนด์ตนเอง มีการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน หรือแม้แต่ต่อยอดเป็น product ใหม่ ๆ ออกมา ไม่หยุดอยู่กับที่
5. การหาบริการที่ดึงลูกค้ากลับมาหาเราได้เรื่อย ๆ ตลอดชีวิต ทั้งบริการหลังการขายตลอดชีพและการตกแต่งหน้าร้านให้น่าตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่ลูกค้ากลับมาเสมอ

# swatch
# watch
# brand
# insight-seeing
SHARE NOW :
Posted On 7 Nov 2023