ไม่ต้องรวยก็สามารถมีความสุขกับของไร้สาระได้ - มารู้จัก Flying Tiger Store ร้านขายของถูกจากเดนมาร์ก ที่ทำให้ชีวิตคนสนุกขึ้น

เป็นความตั้งใจของทางร้าน Flying Tiger  ที่ขายของที่ทำให้คนเห็นแล้วยิ้มได้ ของที่เราเห็นแล้วคิดว่าอยากซื้อไปฝากเพื่อนของเราสักคน ของที่เราไม่เคยคิดว่าต้องการมันมาก่อนเลย หรือของที่เห็นแล้วคิดในใจว่าเราต้องมีมันไหมเนี่ย แต่ในที่สุดก็อยากลองซื้อไป แต่ของทั้งหมดในร้านจะต้องทำหน้าที่สำคัญคือ ‘เพิ่มความสนุกให้กับชีวิตคน’ ทำให้เราได้ใกล้กับคนรอบ ๆ ตัวมากขึ้น และทำให้ความสัมพันธ์ของเราและคนรอบข้างดีขึ้นในทางใดทางหนึ่งนั่นเอง เพราะคุณค่าที่แท้จริงของสิ่งของไม่ได้อยู่ที่การได้เป็นเจ้าของมัน แต่เป็นประสบการณ์ที่เราได้ใช้ร่วมกับคนรอบ ๆ ตัวเรา สามารถบอกได้เลยว่า Flying Tiger ไม่ได้ตั้งใจแต่ออกแบบให้ของดูดี แต่ออกแบบให้ผู้ใช้รู้สึกดี

Flying Tiger เป็นร้านขายของราคาถูก เริ่มต้นที่ 50 cent หรือเปรียบกับร้านทุกอย่าง 20 บาทบ้านเรา ของชาวยุโรป มี

ต้นกำเนิดจากเมืองโคเปนฮาเกน ประเทศเดนมาร์ก ของที่ขายในร้านจะเป็นของใช้ชีวิตประจำวันสีสันสดใสสะดุดตา ที่ดูเผิน ๆ จะเป็นของไร้สาระ เป็นของที่คนเห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้ หรือจะต้องเรียกให้เพื่อนมาดูและเกิดบทสนทนาหรือขำกัน 

เบื้องหลังของร้านขายของที่ (บางคนมองว่า) ไร้สาระนี้ เปี่ยมไปด้วยความตั้งใจของผู้ก่อตั้ง ที่จะขายของธรรมดาที่มีความพิเศษ ให้คนใช้ในชีวิตประจำวัน โดยของในร้านนั้นถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ ที่จะออกแบบของใช้ธรรมดาในชีวิตประจำวันให้เหนือธรรมดาขึ้นมา ตั้งใจขายของในราคาถูกให้ทุกคนสามารถซื้อได้ โดยของในร้านส่วนใหญ่เป็นของราคา 1, 2, 3 ยูโร เท่านั้นเอง

ย้อนไปเมื่อปี 1995 ที่ Lennart Lajboschitz และภรรยา เริ่มจากการเปิดร้านทุกชิ้นราคาเดียว คือ 10 โครเนอร์ (ประมาณ 30 บาท) ขายร่ม แว่นกันแดด ถุงเท้าและของไร้สาระอื่น ๆ นั่นดูสนุกตั้งแต่เริ่มแล้ว เพราะคนมักจะถูกดึงดูดด้วยการเข้าไปดูเล่น ๆ และกลับไปด้วยการซื้อของ เพราะของราคาถูกดีและซื้อไปก็น่าจะได้ใช้ จนปัจจุบัน Flying Tiger ร้านที่ขายของที่ดูบ๊อง ๆ นี้มีสาขาเกือบ 900 สาขาใน 29 ประเทศทั่วโลก ( ปิดตัวไปบ้างจากสถานการณ์ covid-19 ) ขายของใช้ในชีวิตประจำวันหลากหลาย ตั้งแต่ของจำเป็น ของที่เราใฝ่ฝัน ของที่เราไม่รู้ว่าโลกนี้มีอย่างงี้ด้วย ประเภทของใช้ในบ้าน เครื่องครัว เครื่องเขียน ขนมขบเคี้ยว หรืออุปกรณ์จัดปาร์ตี้

การที่ Flying Tiger เป็นร้านที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจน และเป็นที่นิยม เราะสามารถสื่อสารจุดยืน ตัวตนของแบรนด์ออกไปได้ผ่านปรัชญาการออกแบบ ซึ่งปรัชญา 5 ข้อนี้ เป็นสิ่งที่ FlyingTiger Store ยึดถือในการออกแบบ และขายของทุกชิ้นในร้าน 

วิธีคิดในการใส่ความสนุกให้กับของธรรมดาในชีวิตประจำวัน เพราะเขาเชื่อว่าไม่ต้องเป็นคนรวยเท่านั้น ที่จะเติมความพิเศษให้กับชีวิต แต่ทุกคนสามารถทำได้ ของที่ใส่ไอเดียลงไปจนทำให้ผู้ใช้ดำเนินชีวิตได้อย่างสนุกขึ้น มีสีสันขึ้น จึงเป็น core หลักของสินค้าภายในร้าน เช่น เราจะไม่คิดถึงที่ฝานแครอทที่หน้าตาเหมือนกบเหลาดินสอยักษ์จนกว่าเราจะเห็นมัน หรือนึกยังไม่ออกว่าทำไมเราต้องมีโบว์ที่ใหญ่เท่าตัวเรา เหมือนกับที่เราจะไม่คิดว่าต้องการสนามไดร์ฟกอล์ฟขณะที่เราขับถ่ายอยู่

เพราะมีความเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์เกิดได้จากการเล่นด้วยกัน ของทางแบรนด์ขายจะเน้นให้คนอยากออกไปเล่นด้วยกันมากกว่าการเล่นเกมในจอ ของที่ทำให้เกิดการสร้างร่วมกัน เล่นด้วยกัน เช่นชุดจัดปาร์ตี้ที่มีครบทุกอย่าง หรือของเล่นสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ที่ทำให้เราอยากลุกออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน

ด้วยความอยากทำให้ของที่ถูกออกแบบเป็นอย่างดี เป็นของที่คนสามารถซื้อใช้ได้กันทุกคน ที่ Flying Tiger จะมีทีมนักออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นผู้ออกแบบเอง ของในร้านหน้าตาดีสมรางวัลทั้ง iF Design Awards , Reddot Award, IDA หรือ Good Design และรางวัลอื่นๆ และของที่ได้รางวัลเหล่านั้นเราสามารถหาซื้อได้ในร้านในราคาเริ่มต้นเพียง 1 ยูโร

แน่นอนอยู่แล้วว่าของใช้ต้องปลอดภัยสำหรับทุกคน แต่ด้วยของจาก Flying Tiger เป็นของเล่นเสียมาก ของทุกชิ้นจึงเน้นกรรมวิธีการผลิตที่ปลอดภัย ไร้สารเคมี ปลอดภัยแม้กับเด็ก ๆ และถูกทดสอบหลายครั้งก่อนถูกนำมาวางขาย เช่น สีเพ้นท์หน้าแฟนซี เด็กๆก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย แม้แต่ขนมก็ไม่ผสมสีเพิ่มเติม

การรักษ์โลกดูจะขัดกับการออกสินค้าใหม่เดือนละมากกว่า  300 อย่างของ Flying Tiger แต่ในมุมของแบรนด์นั้น ของทุกชิ้นถูกคิดถึงการใช้งาน ว่าจะทำให้เรามีพฤติกรรมในการใช้ที่ดีขึ้นต่อโลกในทางใดทางหนึ่ง และพยายามลดสินค้าประเภทใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งลง รวมถึงบรรจุภัณฑ์ของสินค้าก็ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลงและค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นการใช้วัสดุเพียง 1 ชนิด เพื่อง่ายต่อการนำไปรีไซเคิลมากที่สุด

Flying Tiger ได้ทำให้เห็นแล้วจริง ๆ ว่า ไม่ว่าคนในระดับใด ก็สามารถเข้าถึงความร่ำรวยในชีวิตได้ ไม่ได้ขึ้นกับเงิน ถ้าความร่ำรวยนั้นเราแปลมันว่า  ' ความสุขในการใช้ชีวิต ’