Bitlock บริการ เปิดประตู แทนเจ้าของบ้าน

ที่ล็อก ประตู เป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งของการที่เราจะอยู่ห้องเช่าสักห้อง เป็นอีกปัจจัยที่จะต้องเอามาคำนึงถึงเวลาที่จะตัดสินใจเลือกรูปแบบของกลอนประตู นอกเหนือจากความปลอดภัย ป้องกันการงัดแงะ หรือบุกรุกที่ต้องมาเป็นพื้นฐานแล้ว เราจะคิดถึงความสะดวกสบายในการใช้งาน เช่น ใช้เวลาในการ เปิดประตู นานแค่ไหน , เปิดยากหรือไม่ , คนที่จะสามารถเปิดได้มีจำนวนกี่คน , เราสามารถควบคุมความปลอดภัยได้มากน้อยเท่าไหร่ และสุดท้ายที่ข้ามไปไม่ได้เลยก็คือ ราคาค่าใช้จ่ายของระบบนั้น ๆ ที่เราเลือกใช้

ซึ่งประเด็นเหล่านี้ คือ ประเด็นการตัดสินใจที่สำคัญว่า เราจะใช้ที่ล็อกประตูแบบไหนดี ? Bitlock จากบริษัท Bitkey จึงเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องที่ล็อกประตู แต่สิ่งที่ Bitlock ออกแบบ ไม่ใช่แค่กลอนประตูแบบอัตโนมัติ แต่คือ บริการ ที่มากกว่าแค่ผลิตภัณฑ์

“ กุญแจหาย ” หรือ “ ลืมเอากุญแจมา ” เป็นปัญหาโลกแตกที่อยู่คู่การล็อกประตูบ้านมาตลอด เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้ เราเพิ่งมีระบบล็อกแบบไม่ใช้กุญแจ ( keyless ) ในการปลดล็อกกลอนประตู เช่น การใช้รหัสผ่าน , การใช้ลายนิ้วมือ หรือการแสกนหน้าเพื่อปลดล็อกประตู ด้วยความสะดวกและแก้ปัญหาใหญ่ของการพกกุญแจไปได้ ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มากขึ้น ก็มากับราคาที่แพงขึ้นเสมอ ดังนั้น ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ต้องการใช้ระบบล็อกประตูแบบไม่ใช้กุญแจในราคาที่จับต้องได้

Bitlock คือ ระบบล็อกกุญแจแบบใหม่ ที่มาพร้อมกับโมเดลการทำธุรกิจแบบใหม่ในวงการล็อกประตู ใช้การติดตาม ( subscribe ) หรือระบบจ่ายรายเดือนในราคาย่อมเยา ( 300 เยนต่อเดือน ) แทนการซื้ออุปกรณ์ไปติดตั้งที่อาจจะทำให้คุณต้องจ่ายเงินก้อนเพื่อให้ได้ระบบล็อกประตูแบบไม่ใช้กุญแจที่ดี ( ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 6,000 เยนต่อเครื่อง )

และ Bitlock ก็ไม่ได้มีดีแค่ราคา แต่เป็นระบบที่เกิดจากความเข้าใจการใช้งานและปัญหาที่ผู้ใช้ที่ล็อกประตูต้องเจออีกด้วย

Bitlock เปิดด้วยแอปพลิเคชันบน smart phone หรือ smart watch โดยเจ้าของบ้านสามารถเปิดประตูบ้านได้ด้วยการสั่งจาก smartphone ดังนั้น หากเราต้องการเปิดประตูให้ใครก็ตาม แม้ตัวเราเองไม่อยู่หน้าบ้าน เราก็สามารถสั่งการเปิดประตูได้ ราวกับว่าเรามีคนคอยรับคำสั่งเพื่อเปิดประตูคอยทำหน้าที่อยู่บ้านตลอดเวลา

ดังนั้น หากเราลืมของไว้ที่บ้าน แล้ววานให้เพื่อนที่อยู่ใกล้แวะไปเอาให้แทนก็ได้ หรือถ้าพี่เลี้ยงที่เราจ้างไปรับลูกเล็กกลับมาที่บ้านก่อนก็สามารถเปิดประตูเข้าบ้านได้โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องมอบกุญแจไว้ให้ถือประจำ หรือสำหรับแขกบางคนที่ไปมาหาสู่ประจำ แต่เราไม่อยากให้กุญแจหรือบอกรหัสเอาไว้เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวไว้อยู่ เช่น พ่อ แม่ หรือพี่น้อง เราก็สามารถเปิดประตูให้พวกเขาได้ผ่านแอปพลิเคชัน แม้เราไม่อยู่ตรงนั้น และพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมีกุญแจหรือรหัสผ่านด้วยซ้ำไป

คนที่ไม่มี smart phone เป็นของตัวเอง หรือคนที่ใช้งานแอปพลิเคชันไม่เป็น เช่น เด็ก และ ผู้สูงอายุ ที่อาศัยภายในบ้าน ก็สามารถปลดล็อกประตูได้ง่าย ๆ ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า “ Bitbutton KIDS ”

อุปกรณ์ที่เป็นเหมือนรีโมตกดเปิดประตู ซึ่งรีโมตตัวนี้นอกจากจะทำให้การเข้าบ้านง่าย และเหมาะสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีแล้ว ในกรณีที่ทำกุญแจหาย อาจทำให้เจ้าของบ้านต้องเปลี่ยนชุดกลอนใหม่ เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยว่าจะมีคนเก็บกุญแจนั้นมาเปิดเข้าบ้านหรือเปล่า ( เด็ก และ ผู้สูงอายุ ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะทำกุญแจหายได้มากกว่าคนปกติ ) เจ้าของบ้านก็สามารถกดระงับการใช้งาน หรือยกเลิกการใช้งานของรีโมทตัวนั้นได้จากแอปพลิเคชันได้ทันที  โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินเปลี่ยนชุดกลอนใหม่ และไม่ต้องกังวลเรื่องการแอบนำกุญแจไปปั๊มได้

ปกติแล้วการติดระบบกลอนประตูต้องมีคนมาติดตั้งให้ หรือเจ้าของบ้านต้องมีทักษะในการถอดประกอบระดับหนึ่ง แต่ Bitlock ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งง่าย ไม่ต้องติดตั้งกลอนใหม่ แค่เพียงเลือกว่ากลอนที่บ้านเราเป็นรูปแบบไหน Bitlock ก็จะมีแบบที่เอาไปติดตั้งครอบกลอนรูปแบบต่าง ๆ ได้และพร้อมใช้งาน นอกจากนั้น อุปกรณ์ทุกอย่างจะถูกติดตั้งจากประตูฝั่งด้านในบ้าน ทำให้ลดความกังวลทั้งในขณะติดตั้ง หรือความกังวลว่าเมื่อติดตั้งเสร็จแล้วจะมีคนมางัดแงะไปได้เลย 

นอกจากการใช้พลังงานน้อยแล้ว เจ้า Bitlock ยังแสดงสถานะแบตเตอรี่ให้เจ้าของบ้านทราบผ่านแอปพลิเคชันได้ตลอดเวลา หมดกังวลเรื่องแบตหมดบ่อย แบตหมดแล้วไม่รู้ไปได้เลย

ข้อดี ( สำหรับบางบ้าน ) ก็คือ เราสามารถทราบได้ว่าใครเข้าบ้านแล้วบ้าง และเข้าบ้านตอนกี่โมงได้จากข้อมูลที่ถูกเก็บไว้บนแอปพลิเคชัน สำหรับบ้านที่มีเด็ก ที่พ่อแม่ที่ยุ่งกับงานก็สบายใจได้ว่ามีประตูบ้านที่ช่วยคอยเฝ้าดูลูก ๆ ให้ได้ด้วยอีกแรงหนึ่ง

(Cover Photo : https://www.makuake.com/project/bitlock/)