About
Contact Us
© 2020 Contextual Co.,Ltd. All rights reserved
Back To Home
Back To Home

5 เหตุผลที่ทำให้ Tesla บริษัทรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีนำหน้า แต่ตอบความต้องการของคนได้มากกว่า

Tesla Car (Photo by Dylan Scarsone Apexpixel on Unsplash)
iPhone ไม่ได้ถูกออกแบบมาจากการสัมภาษณ์หรือไปทำความเข้าใจคน ว่าอยากใช้โทรศัพท์ที่ไม่มีปุ่มฉันใด Tesla ก็ไม่เคยถามผู้ใช้ว่าอยากได้รถไฟฟ้าอย่างไรฉันนั้น

เมื่อกล่าวกันถึงเคสที่คลาสสิคมากในการเกิด Innovation ของสินค้า อย่าง iPhone คนจะตั้งคำถามว่าไปเอาความต้องการนั้น (โทรศัพท์ไม่มีปุ่ม) มาจากไหน ในเมื่อการเก็บข้อมูลสัมภาษณ์ผู้ใช้ ไม่มีใครบอกออกมาเช่นนี้ Tesla ก็คล้ายกัน ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถทำได้ ประกอบกับวิสัยทัศน์ของผู้นำ ทำให้ Tesla ที่ทำออกมานั้น นำเสนอสิ่งใหม่และแก้ปัญหาเก่าได้ในทีเดียว

เหตุผลที่ทำให้เทคโนโลยีของ Tesla ไม่ได้ตอบโจทย์แค่บริษัท แต่ตอบ user และโลกด้วย

1. จุดยืนที่มั่นคงของแบรนด์ เรื่องพลังงานสะอาดตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึง Product

เมื่อเราเป็นเจ้าของรถยนต์สักคัน ค่าใช้จ่ายที่จะต้องมีไปตลอดอายุขัยการใช้งานรถหนึ่งคัน คือค่าน้ำมันหรือเชื้อเพลิง ดังนั้นหากมีรถยนต์ที่สามารถช่วยผู้ใช้ประหยัดพลังงาน และสร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมต่อโลกได้ต่ำแล้ว ก็เป็นที่น่าจับตามองจากผู้คนไม่ยาก
การที่ Tesla นำเสนอ EV Car (รถยนต์พลังงานไฟฟ้า) ไม่ใช่เพียงเพื่อแบรนด์ได้ปักธงเป็นผู้นำเรื่อง EV Car เพราะเทสล่าไม่ได้เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ต้องปรับตัวจากการผลิตรถที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงมาก่อน แต่เริ่มด้วยการผลิต EV Car ตั้งแต่ต้น การผลิต EV Car นี้นอกจากประโยชน์จะตกไปสู่โลกแล้ว แน่นอนว่ายังช่วยผู้ใช้ประหยัดในระยะยาวอีกด้วย
 Elon Musk ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ในปัจจุบัน ยืนยันด้วย Strategic Goal ที่ว่า Tesla จะต้องเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่คนทั่วไปก็สามารถเข้าถึงได้ (EV Mass) ไม่ใช่รถสำหรับคนรวยมากเท่านั้น
ส่วนจุดยืนด้านพลังงานสะอาด (Clean Energy) ของเทสล่านั้น ก็ไม่ใช่แค่ตัวรถ แต่รวมถึงกระบวนการผลิต ซึ่ง Elon Musk ก็ตั้งเป้าไว้ว่า เทสล่าจะมีกระบวนการผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาดทั้งหมด โดยโรงงานผลิตรถยนต์ Tesla Gigafactory ในรัฐเนวาด้า ที่มีพื้นที่กว่า 500,000 ตร.ม. นั้น มีหลังคาของโรงงานเป็นแผง Solar Cell เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในโรงงาน รวมถึงยังมีการใช้พลังงานหมุนเวียน จากลมเเละเเสงอาทิตย์เเบบ 100 เปอร์เซ็นต์ (net zero energy factory) ในการดำเนินการทั้งหมด
Tesla Gigafactory 1 (Photo : Tesla)

2. ใช้หุ่นยนต์ในการผลิต ไม่ใช่เพื่อมาแทนที่คน แต่เพื่อยกระดับมาตรฐาน 

ความพิเศษของโรงงาน Tesla Gigafactory คือ ใช้คนงานน้อยมาก หากเทียบกับขนาดพื้นที่ แต่ใช้หุ่นยนต์ในการผลิต บางส่วนงานมีการใช้หุ่นยนต์ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหุ่นยนต์ถูกนำมาใช้ในงานที่หนัก เช่น การเคลื่อนย้ายสิ่งของ จุดที่มีสารเคมี เช่น งานสี หรือ งานละเอียดที่ต้องการความแม่นยำมากที่สุด
ส่วนแรงงานคนนั้น ได้รับมอบหมายหน้าที่ในการตรวจสอบ และควบคุมคุณภาพ ดังนั้น ไม่ว่ารถยนต์จะผลิตที่ไหน ก็มั่นใจได้ว่าอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน 
หุ่นยนต์ที่ใช้ในการผลิตของ Tesla (Photo : Tesla Factory Highlights Video)
คนทำหน้าที่ประกอบและตรวจสอบคุณภาพในบางช่วงของการผลิต (Photo : Tesla Factory Highlights Video)

3. ไม่มีปรับโฉม Minor Change มีแต่ Software Update

จุดแข็งอีกเรื่องของเทสล่า คือ การคำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานของคน โดยทั่วไปการรถยนต์ยี่ห้ออื่น ๆ จะมีการปรับโฉมหรือ Minor Change ทุกประมาณสองปี ทางแบรนด์จะต้องพยายามปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์หรือมีเทคโนโลยีใหม่เล็ก ๆ น้อย ๆ ใส่เพิ่มเข้าไป เพื่อปล่อยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของแบรนด์และเป็นการกระตุ้นให้คนอยากได้รถใหม่เสมอ แต่เทสล่าไม่เอาแรงและเวลาไปทุ่มเทกับการปรับรูปลักษณ์ แต่ใช้ในการพัฒนาซอฟท์แวร์แทน  และเทคโนโลยี ที่ดีกับผู้จริง ๆ โดยการออกซอฟท์แวร์ใหม่เรื่อย ๆ ให้ผู้ใช้คอยอัพเดท โดยไม่ต้องซื้อรถคันใหม่ทั้งคัน  แต่สามารถได้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดไปใช้ ใช้หลักการเดียวกับการอัพเดทซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัติการในโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์นั่นเอง วิธีนี้นอกจากผู้ใช้จะประหยัด ไม่ต้องอยากซื้อรถใหม่แล้ว ยังลดขยะที่จะเกิดขึ้นต่อโลกด้วย

4. ไม่ใช่ขายแล้วจบ แต่คิดถึงการชาร์จแบตไว้แล้ว

แน่นอนว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้า คนจะห่วงเรื่องการชาร์จแบตเป็นเรื่องแรก เทสล่า รู้ความกังวลนี้ จึงมีสถานีเติมไฟ Supercharing Station ไว้ ทั่วอเมริกา ( และที่อื่น ๆ ในโลก ) รวมถึงมีการทำความร่วมมือกับโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารต่าง ๆ โดยที่ระบบการนำทางของรถจะแจ้งจุดชาร์จแบตที่ใกล้ที่สุดให้กับผู้ขับ ด้วยการเตรียมระบบเหล่านี้ไว้พร้อม ทำให้เทสล่าขายรถง่ายขึ้นด้วย
Tesla Supercharger Station (Photo : Tesla)
ค้นหาและเช็คสถานะการให้บริการ และมี App ให้ติดตามการชาร์จรถได้ (Photo : Tesla)

5. งานบริการที่ไม่เหมือนใคร ซื้อรถ online ซื้ออะไหล่ในห้าง

 เทสล่า วางระบบการขายให้ลูกค้าซื้อรถ online เท่านั้น แม้จะยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ( เพราะติดเรื่องกฎหมายของอเมริกาที่ต้องซื้อรถยนต์ผ่านดีลเลอร์ ตามกฎหมายคุ้มครองดีลเลอร์ ) และหากมีชิ้นส่วนใดต้องการซ่อมแซม ก็ไม่ต้องเข้าศูนย์ เพราะเข้าใจว่า ไม่มีใครชอบการไม่มีรถขับนาน ๆ จึงมีร้านขายอะไหล่ และ part ต่าง ๆ ที่เป็นบริการแบบรอรับกลับได้เลย 
Tesla Website (Photo : Tesla)
Tesla Online Shop (Photo : Tesla)
การใช้เทคโนโลยีนำของเทสล่านี้ หลายคนอาจจะดูว่าเป็นเรื่องไกลตัวและไม่ได้เริ่มจากการเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้ แต่เหตุผล 5 ข้อที่กล่าวมานี้ทำให้เห็นว่า การคิดและออกแบบนำเสนอ solution ที่ดีอาจไม่ใช่แค่ตอบความต้องการของคนไปทีละเรื่อง แต่อาจเปลี่ยนทั้งรูปแบบแล้วสามารถตอบทุกความต้องการหรือแก้ปัญหาได้เลยก็ได้
FUN FACT : Tesla มีการปรับอย่างรวดเร็วเหมือน startup แม้กระทั่งกับผังโรงงาน แรกเริ่มเดิมที โรงงานเทสล่าซื้อต่อมาจากโรงงานผลิตรถยนต์ Toyota แต่หลังจากได้ใช้ไปในระยะเวลาหนึ่ง ทางเทสล่าเห็นช่องโหว่ของผังโรงงาน และได้นำมาพัฒนาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพในการผลิตและส่งต่องานสูงขึ้น โรงงานแห่งที่ 3 ที่ตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ มีการปรับปรุงผัง layout เเละระบบการผลิตใหม่ โดยส่งงานต่อกันในแบบ Linear ทำให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าโรงงานอื่นๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าโรงงานผลิตรถยนต์ทำเหมือนเดิมมาเป็นร้อยปี แต่เมื่อ Tesla ได้ออกแบบโรงงานเองบ้าง เขาก็เปลี่ยนรูปแบบโรงงานภายในระยะเวลาเพียง 10 ปีเท่านั้น หรือเรียกว่าปรับผังทุกครั้งที่สร้างโรงงานใหม่ เป็นการนำข้อบกพร่องจากที่เก่ามาพัฒนาในทันทีอย่างแท้จริง
โรงงาน Tesla แบบเดิมที่ Fremont, California และโรงงานใหม่ที่กำลังจะสร้างที่ Shanghai (Photo : Tesmanian)
ผัง Tesla Gigafactory ที่ Shanghai (Photo : Tesmanian)
FUN FACT : Tesla ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่อเดือน ก.ค. 2020 ที่ผ่านมา Tesla บริษัทรถยนต์ขวัญใจนักลงทุนได้มีมูลค่าเเซงหน้า Toyota เเละกลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มูลค่าสูงสุดไปเป็นที่เรียบร้อย ด้วยอัตราการเติบโตของมูลค่าหุ้นถึง 4,000% ถือเป็นบริษัทที่เติบโตสูงสุดในครึ่งปีแรกของปี 2020 ตามมาด้วย Netflix ในอันดับที่ 2 และ Amazon ในอันดับที่ 3 
# insight-seeing
# brand
# product design
# service design
# automobile
# future car
# car
# tesla
# gigafactory
# AI
# artificial intelligence
SHARE NOW :
Posted On 13 Dec 2020