Aeropress จากการต้องการสร้าง เครื่องทำกาแฟ ให้ทำออกมาได้ปริมาณแก้วเดียว สู่การค้นพบกระบวนการ ทำกาแฟ ใหม่ของโลก !

จากความตั้งใจแรกของคุณ Alan Adler ผู้คิดค้น Aeropress เกิดจากการต้องการแก้ปัญหากวนใจในการ ทำกาแฟ ของตัวเองด้วย เครื่องทำกาแฟ ที่บ้านของเขา ที่เครื่องนั้นจะทำกาแฟออกมาได้ครั้งละ 6 - 8 แก้ว ซึ่งมันมากเกินไป

Alan Alder ตั้งใจหาทางออก เพื่อให้เกิด เครื่องทำกาแฟ ที่บ้าน ที่สามารถทำออกมาในจำนวนแก้วเดียวได้ และยังต้องอร่อยด้วย ! เขาพบว่า กระบวนการทำงานของเครื่องทำกาแฟที่บ้านในสมัยนั้น ทำให้กาแฟที่ได้มีรสชาติขม เพราะว่าต้องมีการแช่กาแฟไว้ในน้ำนาน เขาจึงคิดว่าถ้ามีอากาศเข้าไปช่วยดันน้ำออกจากกาแฟให้เร็วขึ้นได้น่าจะดี ระบบ Aeropress จึงเกิดขึ้น และนั่นนอกจากจะทำให้กาแฟที่ออกมามีรสที่สะอาด ไม่ขมแล้ว ยังทำให้ทำกาแฟได้ในเวลาที่รวดเร็วกว่าเดิมอีกด้วย

หลาย ๆ คนบอกว่า Aeropress พอทดแทน espresso shot  ได้ ถ้าเราผสมนมลงไปด้วย แต่ถ้าเทียบกันชอตต่อชอตนั้น ก็ยังแตกต่างกันมากอยู่ทีเดียว

ถึงแม้ Aeropress จะไม่สามารถทำ espresso shot  ได้เหมือนออกมาจากเครื่องแรงดันใหญ่ ๆ แต่กาแฟที่ได้กลับมีลักษณะพิเศษที่เฉพาะตัว อยู่ตรงกลางระหว่างความเป็น espresso กับ filter คือ สามารถทำกาแฟได้รสชาติสะอาดเหมือน filter แต่ใช้เวลาน้อยเหมือนการทำ espresso ทำให้ปัจจุบัน Aeropress นอกจากจะเป็นชื่ออุปกรณ์แล้ว ยังเป็นชื่อเรียกกระบวนการทำกาแฟอีกประเภทหนึ่งไปแล้ว

ไม่ว่าคุณจะเป็นบาริสต้ามืออาชีพ หรือเป็นแค่คนชื่นชอบการดื่มกาแฟ คุณจะมีเครื่องทำกาแฟราคาหลายแสนบาท หรือมีเพียงเครื่องเดียว คนเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็จะมี Aeropress เป็นหนึ่งในอุปกรณ์การทำกาแฟ

นอกเหนือจากความคลาสสิกแล้ว ยังเป็นกระบวนการที่ทำให้ได้รสชาติเฉพาะ ในต้นทุนที่ประหยัดทั้งเงินและเวลา ( ราคา Aeropress 1 เครื่องอยู่ที่ 1,490 บาท สามารถทำกาแฟออกมาได้ภายใน 1 นาที ) และมากไปกว่านั้นคือ ด้วย Aeropress เพียงเครื่องเดียว สามารถสร้างสรรค์กาแฟด้วยเทคนิคต่าง ๆ ออกมากได้หลากหลายมากเมื่อเทียบกับเครื่องประเภทอื่น พูดง่าย ๆ ว่า มีเครื่องเดียว สนุกได้ไม่รู้จบ

Aeropress เป็นอุปกรณ์การแฟที่ไม่ต้องการไฟฟ้า มีชิ้นส่วนประกอบหลัก ๆ อยู่ไม่กี่ชิ้น ได้แก่ กระบอกสูบ แผ่นและกระดาษกรอง โดยมีหลักการทำงานแค่เพียงใช้แรงดันอากาศจากกระบอกสูบดันน้ำ (ที่อุณหภูมิไหนก็ได้) ผ่านกาแฟที่บด และแผ่นกรองออกไป

ด้วยหลักการที่แสนเรียบง่าย และมีความยืดหยุ่นมาก ( ไม่จำกัดว่าอุณหภูมิน้ำต้องเป๊ะที่เท่าไหร่, ความละเอียดของกาแฟต้องแค่ไหน, น้ำหนักกาแฟที่ใช้และเวลาก็ไม่ได้มีกำหนดตายตัว ) ทำให้ผู้ใช้เป็นเหมือนศิลปิน ที่ได้พู่กันไป คุณอยากจะเอาไปวาดสีน้ำ สีน้ำมัน สีโทนไหนอย่างไรก็ได้ จะใช้สีที่ทำจากอะไรก็ได้ สุดท้ายคุณจะได้ภาพวาดที่มีความเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป

ทำให้เราสามารถทำกาแฟจากเครื่อง Aeropress ออกมาได้หลากหลายมาก ตั้งแต่ espresso, filter, ไปจนถึง coldbrew นอกจากนั้นมันยังสามารถใช้ทำชาได้ดีมากอีกด้วยล่ะ แล้วถ้าให้มากไปกว่านั้นอีกมันคืออุปกรณ์ที่เชฟทำอาหารเอาไปเล่น เอาไปใช้ทำอาหารให้สนุกขึ้นอีกด้วย !

Aeropress ถูกมองว่าเป็นอุปกรณ์ที่สนุก เปิดกว้าง และมีพื้นที่ให้สร้างสรรค์เยอะมาก ซึ่งมันสะท้อนลักษณะของ  Alan Adler ได้เป็นอย่างดี นอกจากการตั้งคำถามที่นำไปสู่ innovation แล้ว (คำถามนั้น คือ ทำอย่างไรให้เราสามารถมี เครื่องทำกาแฟ ที่ทำกาแฟออกมาได้ทีละแก้วไว้ที่บ้านได้)

Alan บอกว่าทุกวันนี้ แม้เขาจะอายุเกือบ 80 ปีแล้ว ก็ยังไม่หยุดที่จะทดลองอะไรใหม่ ๆ กับ Aeropress เขาลองเอา Aeropress ไปทำ coldbrew ที่ปกติก็มีคนเอาไปใช้ทำอยู่แล้ว แต่ก็ยังเอาไปใช้กับแบบที่ไว้ทำ coldbrew แบบใช้เวลา 12 - 16 ชั่วโมงอยู่ดี เขาเองจึงทดลองหาวิธีการ hack ให้ได้กาแฟ coldbrew ออกมาภายใน 3 นาที และนี่คือเสน่ห์ของ Aeropress ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของ Alan Alder ผู้คิดค้นมันออกมาได้อย่างเต็ม ๆ

ใครจะรู้ว่าจากจุดเริ่มต้นหาทางออกกับปัญหาเล็กๆ จะนำมาสู่ธุรกิจที่มีมูลค่า 42 ล้านดอลลาร์ได้ และที่มากไปกว่านั้นคือค้นพบวิธีการใหม่ ที่ทำให้เราได้เข้าถึงกาแฟที่มีรสชาติดีอีกวิธีการหนึ่งได้